อวสาน Design Thinking?

อวสาน Design Thinking?

ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา Design Thinking กลายเป็นคำฮิตในโลกของธุรกิจและนวัตกรรม องค์กรใหญ่เล็กต่างประกาศว่ากำลัง “นำ Design Thinking มาใช้” ไม่ว่าจะเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างบริการที่โดนใจลูกค้า หรือปรับปรุงวัฒนธรรมการทำงาน แต่ในวันนี้ คำถามที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ คือ “Design Thinking ตายแล้วหรือยัง?”

Design Thinking หมดสมัยแล้วจริงหรือ?

บางเสียงวิจารณ์ว่า Design Thinking เป็นเพียง buzzword ที่ถูกนำไปใช้จนเสื่อมความหมาย หลายองค์กรหยิบเอาเครื่องมือพื้นฐาน (เช่น empathy map หรือ brainstorming) มาใช้เพียงผิวเผิน จนผลลัพธ์ไม่ต่างอะไรจาก workshop สนุก ๆ ที่ไม่ทิ้งผลจริงจัง สุดท้ายก็เกิดคำถามว่า “มันเวิร์คจริงไหม”

ในขณะเดียวกัน โลกธุรกิจก็กำลังเจอความท้าทายใหม่ ๆ ที่ซับซ้อนกว่าเดิม เช่น การปรับตัวสู่ดิจิทัล ความยั่งยืน การจัดการ stakeholder หลากหลายกลุ่ม หรือการรับมือกับ AI และ disruption ซึ่งหลายคนสงสัยว่ากรอบคิดแบบ Design Thinking ที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลางนั้นยังเพียงพออยู่หรือไม่

ทำไม Design Thinking ยังไม่ตาย

หากมองลึกลงไป Design Thinking ไม่ใช่สูตรตายตัว แต่คือ “วิธีคิด” ที่เปิดพื้นที่ให้ทีมงานตั้งคำถาม ฟังอย่างตั้งใจ มองจากมุมของผู้อื่น ทดลอง และเรียนรู้จากความล้มเหลว สิ่งเหล่านี้คือ common sense ของการสร้างนวัตกรรม เพียงแต่เป็น common sense ที่องค์กรส่วนใหญ่มักลืมไป

โดยเฉพาะในโลกของ corporate innovation ที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบ โครงสร้างที่แข็งตัว และ KPI ระยะสั้น Design Thinking จึงมีคุณค่ามาก เพราะมันบังคับให้ผู้บริหารและทีมงานชะลอความเร็ว หันกลับมาถามว่า “ลูกค้าจริง ๆ ต้องการอะไร” และ “เรากำลังแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเปล่า”

บทสรุป

ดังนั้น คำถาม “อวสาน Design Thinking หรือไม่” อาจไม่ใช่คำถามที่ถูกต้องนัก เพราะ Design Thinking ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่มาแล้วไป แต่คือหลักการพื้นฐานของการสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาอย่างมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง หากจะเรียกมันว่า “common sense” ของนวัตกรรม ก็คงไม่ผิด

อวสานของ Design Thinking จึงยังไม่มาถึง แต่สิ่งที่เราต้องระวังคืออย่าให้มันถูกลดทอนเหลือเพียงเครื่องมือฉาบฉวย เพราะแท้จริงแล้ว Design Thinking ยังคงเป็นเข็มทิศที่ทำให้องค์กรสร้างนวัตกรรมได้อย่างมีความหมาย